RSS

เรื่องอัปยศของควาย มันก็ยังอยู่อย่าง ควาย

01 Sep

เรื่องน่าอัปยศของ ควาย

สวัสดีครับทุกๆ ท่านที่ชื่นชอบ โซเชียลวันนี้กระทาชาย นายฟารุค มีเรื่องอัปยศอดสูมาเล่าสู่กันฟัง เรื่องมีอยู่ว่า

Image of ไอ้คุณศิรวิทย์ มงคล

นายคนนี้ครับ ชื่อนาย ศิรวิทย์ มงคล หรือที่เราเรียกกันว่า “น้าเลื่อน” เป็นชาวจังหวัดพิจิตร อยู่แห่งหนตำบลใดอันนี้นายฟาไม่รู้ครับท่าน
แต่ที่รู้ๆ ก็คือว่านายคนนี้อยากได้รถยนต์สักคันนึงแต่ว่าตัวเองแกเองนั้นติดบัญชีดำหนี้เสียหรือที่เรียกกันว่า Black List ไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ
ในด้านสินเชื่อได้แต่อยากกู้ไฟแนนซ์ซื้อรถยนต์จะทำยังไงดี ก็เลยไปปรึกษาน้องสาวที่ชื่อว่า คุณ อำพร มงคล ให้ช่วยหา “ควาย” สักตัวมาเป็นชื่อผู้เช่าซื้อรถให้
และแล้วโชคชัยก็เป็นของนายศิรวิทย์ เมื่อที่บริษัท จอห์นเกรย์ ซีแคนู มีพนักงานคนนึงซึ่งพอจะมี “เครดิต” กระจอกๆ ทางการเงินชื่อว่า นาย เจษฎาพร เก็บทรัพย์
ซึ่งทำงานเป็นเด็กพายเรืออยู่ที่ บริษัท จอห์น เกรย์ ซีแคนู นี้ เช้าวันหนึ่งที่แสนสุดจะธรรมดาของนาย เจษฎาพร เก็บทรัพย์
นายเจษฎาพรได้เดินทางมาที่บริษัทตามปรกติเหมือนเช่นทุกๆ วัน พอมาถึงก็ถูก “เจ๊พร” หรือนางสาว อำพร มงคล เรียกให้มาคุยกันที่หลังออฟฟิศ
โดยมีนาย ศิรวิทย์ มงคล อยู่ด้วยแต่พยายามไม่ให้คนอื่นได้ยิน และ “ควาย” เจษฎาพรก็หาได้สำเนียกถึงกลิ่นไอหายนะเลยไม่ ด้วยความซื่อ(แบบโง่ๆ)
“นี่ฟารุ เจ๊นั่นจะขายรถคันสีส้มนี้ให้เอ็งในราคา 7 หมื่นบาท แต่ว่าเอ็งต้องช่วยเจ๊เป็นชื่อซื้อรถให้น้าเลื่อนหน่อย พอดีว่า น้าเลื่อน พี่ชายเจ๊ แกไม่มีรถใช้ สงสารแก
เจ๊ไม่เห็นใครเลย นอกจากเอ็ง ฟารุ เอ็งต้องช่วยเจ๊นะ เจ๊รับรองว่าจะไม่ให้มีอะไรเสียหายมาถึงเอ็งเลย นี่น้าเลื่อนก็ทำงานเดือนๆ นึงก็ได้หลายเงินอยู่รับรองว่าไม่มีเสียแน่นอน
แล้วเจ๊ก็จะช่วยอีกแรงนึง เอ็งไม่ต้องกลัว” เจ๊พรว่า ด้วยความที่นายเจษฎาพรเพิ่งจะเข้าทำงานที่บริษัทและงานที่นี่ก็กำลังไปได้สวย
นายเจษฎาพรถึงแม้ว่าอยากจะตอบปฏิเสธก็ไม่กล้าเพราะว่ากลัวมันจะกระทบกับงานที่ทำอยู่เพราะว่าเจ๊พรที่เป็นเจ้านายเป็นคนพูดเองแบบนี้
นายเจษฎาพรก็น้ำท่วมปากปฏิเสธไม่ออก

รุ่งเช้าของอีกวัน สามคนคือ นายเจษฎาพร เก็บทรัพย์ นายศิรวิทย์ มงคล และ นางสาวอำพร มงคลก็ไปทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ที่เต๊นท์รถมือสอง
แห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต โดยนายเจษฎาพร เก็บทรัพย์ เป็นผู้เช่าซื้อ ส่วน นาย ศิรวิทย์ มงคลและนาวสาว อำพร มงคลเป็นผู้ค้ำประกันร่วมกัน
รถอยู่ในความครอบครองของนายศิรวิทย์ หลังจากที่นายเจษฎาพร เก็บทรัพย์ ได้ตกเป็น “ควาย” มีชนักติดหลังไปเรียบร้อยแล้วก็ได้มีเพื่อนๆ
ผู้หวังดี(หรือเปล่า? อันนี้ไม่แน่ใจ) มาบอกกล่าวด้วยท่าทางเป็นห่วง(ห่วงภายนอก แต่ภายในใจหัวเราะเยาะ สมน้ำหน้า)
ว่าไอ้นายศิรวิทย์ มงคล คนนี้นั้นมันโกงรถเค้ามาหลายคันแล้ว คันที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ ก็พี่อำนวยเป็นคนค้ำประกัน
มันพารถหนีหายลอยนวลไป 9 เดือนตอนนี้ก็ยังเป็นคดีความกันอยู่ และเท่าที่รู้นั้นมึงเป็นคนที่ 3 แล้วนะที่นี่
นายเจษฎาพร ทำได้แค่ฟังเฉยๆ และนั่งซอยตาปริบๆ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร(ก็มันโง่ไง) จะไปยกเลิกสัญญาหรือมันก็ทำไม่ได้
จะเอารถกลับมาหรือ มันก็ไม่มีปัญญาผ่อน เพื่อนร่วมงานข้างๆ ก็มองดูด้วยความสมเพช เพราะว่าไอ้นายเจษฎาพร นี่มันโง่จริงๆ
เวลาได้เลยล่วงไปจนเข้าเดือนที่ 5 ลางร้ายเริ่มปรากฎเด่นขึ้นเมื่อนายศิรวิทย์เริ่มส่งค่างวดรถไม่ตรงเวลา จ่ายช้าไปเป็น 10 วัน
กำหนดจ่ายวันที่ 15 ของเดือน หมอจ่ายวันที่ 28 ของเดือนแบบนี้บริษัท กรุงศรี ออโต้ เค้าก็โทรตามทวงถามเอาสิครับ
นายเจษฎาพร เก็บทรัพย์ ก็ไปบอกให้นายศิรวิทย์ มงคล จ่ายงวดรถให้ตรงเวลาหน่อย
ผลก็ปรากฎว่า นายเจษฎาพร โดนนายศิรวิทย์ตอกหน้าแงกลับมาว่า “รถอยู่ในความรับผิดชอบของ กู
กูก็ผ่อนของกูอยู่ แล้วมาบอกจะเอานั่น มาดูนี่ ก็มึงอยากหน้าโง่มาเป็นชื่อให้เองทำไม”
นาย เจษฎาพร ทำอะไรไม่ได้ได้แต่นั่งคับแค้นใจอยู่เรื่อยมาด้วยคำว่า “ไอ้หน้าโง่”
แต่นายเจษฎาพรก็ทำอะไรใครไม่ได้เพราะว่ามันโง่ไปแล้วจริงๆ ก็ช่วยไม่ได้ต้องรอชดใช้กรรมกันต่อไป
หลังจากวันนั้นวันที่โดนนายศิรวิทย์ มงคล เรียกว่า “ไอ้หน้าโง่” นายเจษฎาพรก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ได้แต่ปล่อยให้เวลามันล่วงเลยไปจนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ที่ผ่านมาได้มีจดหมายเตือน / บอกเลิกสัญญามาที่บ้านของนายเจษฎาพร
มีข้อความว่า บริษัท กรุงศรี ออโต้ ได้ยกเลิกสัญญาและนายเจษฎาพร เก็บทรัพย์ จักต้องชำระค่างวดและค่าปรับการจ่ายล่าช้าเป็นจำนวนเงิน 6 หมื่นบาท
พนักงานของบริษัท กรุงศรี ออโต้ มาหานายเจษฎาพรที่บริษัทในวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557 แต่ไม่ได้เจอกัน
และตอนนี้นายศิรวิทย์ มงคล ได้เอารถยนต์หลบหนีไปแล้วอย่างง่ายดาย ติดต่อไม่ได้เหมือนตายจาก
วันที่ 20 สิงหาคม 2557 พนักงานของบริษัท กรุงศรี ออโต้ ซึ่งเป็นทีมยึดรถ มาที่บริษัท จอห์น เกรย์ ซีแคนู
แต่ได้มาเจอกับ นาง อำพร มงคลก่อนที่จะทำการยกรถไป
นางสาว อำพร ก็ได้คุยกับพนักงานและได้ตกลงว่าจะจ่ายเงินในส่วนดังกล่าวให้ในวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2557
เป็นจำนวน 6 หมื่นบาทอย่าเพิ่งยกรถไปเลย ทางพนักงานก็ได้ตกลงและได้กลับไป
เมื่อวันจันทร์ ที่ 25 สิงหาคม 2557 มาถึงเจ้าหน้าที่ก็มาอีกตามสัญญาและนางสาวอำพรนั้นก็ยังไม่มีเงินจ่ายให้กับบริษัท
และท่าทีในการพูดจาคราวนี้นั้นผิดไปจากเมื่อสามวันก่อนจากหน้ามือเป็นหลังตีน คือไม่ยอมคุยด้วย
คุยก็ไม่เข้าประเด็นจนในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็อดรนทนรออยู่ไม่ได้เพราะว่ามีงานที่อื่นต่อ เลยต้องไป สรุปคือจบเรื่อง เจอรถที่ไหนก็ยกได้ที่นั่น
แต่เรื่องราวมันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้นเพราะได้ข่าวว่า(อาจจะเป็นข่าวโคมลอยก็ได้)
นาย ศิรวิทย์ มงคล นั้นได้พารถยนต์คันดังกล่าวไปจำนำเสียแล้ว และตัวนาย ศิรวิทย์ มงคล นั้นก็หายเข้ากลีบเมฆไปอย่างลอยนวลสบายใจเฉิบอีกครั้งหนึ่งปล่อยให้
ไอ้ควาย นายเจษฎาพร เก็บทรัพย์ ใช้กรรมไปตามระเบียบ ตอนนี้นายเจษฎาพร เก็บทรัพย์ ทำได้เพียงแต่รอหมายเรียกจากศาลที่ทาง บริษัท กรุงศรี ออโต้
กำลังดำเนินการ ฟ้องร้องอยู่ และเป็นเรื่องที่แน่นอนว่า นาย เจษฎาพร เก็บทรัพย์ ตอนนี้ก็ได้ติดบัญชีดำ หนี้เสียไปเรียบร้อยสมใจ
ส่วนนาย ศิรวิทย์ มงคลก็อาจจะหายไปสักพักและรอวันที่จะกลับมาเมื่อมี “ควาย” ตัวใหม่มาให้มันใช้ชื่อทำธุรกรรมต่างๆ
แล้วแต่ที่พวกมันจะหลอกได้อย่างสบายใจอีกครั้ง วันนึงคุณจะเป็นรายต่อไป “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” มันไม่ได้เป็นความจริงหรอกครับ มันมีแต่ในนิยาย
แต่ถ้าอยากเป็น “ควาย” เหมือน นายเจษฎาพร เก็บทรัพย์ ล่ะก็เชิญติดต่อ คุณ ศิรวิทย์ มงคล และ นางสาว อำพร มงคล ได้เลยครับ
รับรองว่า “มึง” ได้เป็น ควาย สมใจอยาก…….

 

Leave a comment